พิพิธภัณฑ์อังกฤษ British Musuem
สำหรับที่ชอบดูชอบศึกษาเกี่ยวกับศิลปะหรือโบราณวัตถุนะค่ะ วันนี้ดิฉันก็จะพาไปดูสถานทีที่เป็นที่จัดแสดงเกี่ยวกับโบราณวัตถุ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของอังกฤษ ตามดูกันเลยค่ะ
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
British Museum (บริติช มิวเซียม) กลาง กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร อังกฤษ แห่งนี้ เรียกตนเองว่า เป็น Collection of the World ก็คงไม่ผิด เพราะมีของเก่าแก่ ที่ได้มาจากทุกมุมโลก ด้วยอำนาจของสมัยยุคล่าอาณานิคม และสิ่งของที่วางไว้ หลายสิ่งเห็นแล้ว ก็อุทานในใจว่า “ขนย้ายมาได้อย่างไร?” เพราะของบางอย่างมีน้ำหนักหลายตัน และอุทานอีกทีว่า “แล้วพื้นที่ดั้งเดิม จะเหลืออะไรให้ดูล่ะเนี่ย?” โดยเฉพาะที่ต้องมาดูคือ โลงมัมมี่ อิยิปต์ และวิหาร Parthenon แห่ง กรีกโบราณ
พิพิธภัณฑ์ แห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1953 และเปิดให้เข้าชม ฟรี อย่างเป็นทางการเมื่อ 1959 โดยเริ่มต้นจาก Sir Hans Sloane ผู้ซึ่งมีของสะสมโบราณมากมาย ได้ถวาย พระราชา George II เพื่อเป็นสมบัติประเทศ อังกฤษ (โดยได้เงินตอบแทน) จากนั้นก็มีของสะสมมาเพิ่มเติมมากมาย ต่อมาก็มีการปรับแต่ง อาคาร จนสวยงาม ภายนอกเป็นวิหาร กรีก อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
ไฮไลท์ British Musuem
สิ่งของมีค่ามากๆสำหรับการศึกษา ประวัติศาสตร์ โลกนี้ ได้แก่
- Rosetta Stone (หินจารึก อักษร ซึ่งเป็นการส่วนสำคัญการในแปลภาษา อิยิปต์ เป็นภาษา กรีกและเราก็แปลความหมายออกจากภาษา กรีก อีกทีหนึ่ง เรื่องภาษาอิยิปต์ หรือ Heiroglyphic สาบสูญ แต่ ภาษากรีกยังคงตกทอดมายังปัจจุบัน)
- วิหาร Parthenon (วิหารใหญ่แห่งอาณาจักร กรีก โบราณที่บูชา เทพี อาธีนา)
- โลง มัมมี่ ต่างๆจาก อิยิปต์ และรูปสลัก
- นาฬิกาโบราณ
- รูปสลักหน้าวิหารของ เปอร์เซีย อัสซีเรีย
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ และข้อครหา
เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ ของ พิพิธภัณฑ์ แห่งนี้ ก็คือ แนวคิดเรื่อง การ ล่าอาณานิคม ในสมัยก่อนนั่นเอง ซึ่ง สหราชอาณาจักร มีความคิดในเรื่องของการขยายพื้นที่ปกครองเพื่อประโยชน์ทางการค้า วัฒนธรรม และการสำรวจ ซึ่งข้อหลังนั้นทำให้ มีการสำรวจมากมายในดินแดนต่างๆที่เป็นเมืองขึ้น บางครั้งก็ถึงขั้น “ถือวิสาสะ” ขนกลับ อังกฤษ ไปวิจัยต่อ
เรื่องถือวิสาสะนี้ ก็แรงเกินจนกระทั่ง คนที่ไปเที่ยว อิยิปต์ ยังบอกว่า พิพิธภัณฑ์ ที่นั่น ยังมี มัมมี่และของสะสมไม่มากเท่ากับ บริติช มิวเซียม เลยด้วยซ้ำ (และก็มีตำนานคำสาป มัมมี่ ต่อมากับทีมสำรวจเหล่านี้)
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
รวมทั้ง วิหาร Parthenon ในปัจจุบันนี้ ที่ กรีซ ก็เหลือเพียงซากปรักหักพัง ครั้นจะบูรณะขั้น ก็กล่าวหาว่า คงไม่มีศิลปะใดๆจะให้ซ่อม เพราะส่วนใหญ่มาอยู่ที่ อังกฤษ เสียหมด ซึ่งทาง อังกฤษ ก็ตอบข้อครหานี้ว่า คิดดูแล้วกันว่า ถ้า อังกฤษ ไม่เก็บกลับมาแสดงใน พิพิธภัณฑ์ ศิลปะเหล่านี้ก็ยังคงถูกปล่อยปละเป็นซากพังๆไปอีกหลายสิบปี (อืม! ตอบได้ดี!)
เมื่อหมดยุคล่าอาณานิคม บางคนบอกว่า อังกฤษยังฝันหวานวันวานในความยิ่งใหญ่ จึงมีพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ และไม่ส่งของสะสมคืนประเทศเจ้าของเขาเสียที
ซึ่งก็มีมีแก้คำครหาเพิ่มว่า นี่คือความตั้งใจที่จะเป็น พิพิธภัณฑ์ แห่งเดียว ที่เก็บประวัติศาสตร์โลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นการเก็บเพื่อการศึกษาจริงๆไม่แสวงหาผลกำไร เพราะการเข้าชม ฟรี
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
https://travel.mthai.com/world-travel/112490.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น